ผู้ยังโลกให้สว่าง
ท่านพระอนุรุทธเถระ ได้ระลึกถึงสุมนเศรษฐีผู้เป็นสหายของท่านในกาลก่อนครั้งที่ท่านได้ถวายบิณฑบาตแก่พระอุปริฏฐปัจเจกพุทธะ ในกาลนี้ สุมนเศรษฐ๊ได้เกิดเป็น จูฬสุมนะ บุตรของมหามุณฑอุบาสกซึ่งเป็นสหายของท่านพระอนุรุทธะ
ท่านพระอนุรุทธะจึงไปจำพรรษาที่บ้านของมหามุณฑอุบาสก เมื่อออกพรรษา มหามุณฑอุบาสกได้ให้จูฬสุมนะ ซึ่งมีอายุ ๗ ขวบ บวชเป็นสามเณรเพื่อเป็นกับปิยการกให้แก่พระอนุรุทธะ สุมนสามเณรบรรลุพระอรหัตในเวลาปลงผมเสร็จนั่นเอง
วันหนึ่งท่านพระอนุรุทธะเสียดลมในท้อง ต้องดื่มน้ำจากสระอโนดาต ท่านสุมนสามเณรจึงเดินทางไปสระอโนดาตเพื่อนำน้ำมา แต่ปันนกนาคราชไม่ยอม จึงได้ต่อสู้กัน สุมณสามเณรเชิญเทวดาจากทุกภพภูมิเว้นแต่อสัญญีสัตว์และอรูปพรหมให้มาดูความแพ้ความชนะ สุมณสามเณรเป็นผู้สยบนาคราช สามารถนำน้ำมาเพื่อประกอบยาให้แก่พระอนุรุทธเถระ
ต่อมา พระอนุรุทธะนำสามเณรมาเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค ภิกษุบางพวกได้ทำกิริยาไม่สมควรแก่สุมณสามเณรด้วยการจับศีรษะบ้าง จับหูบ้าง พระผู้มีพระภาคต้องการให้ภิกษุเหล่านั้นรู้อานุภาพของสามเณร จึงให้พระอานนท์บอกให้สุมณสามเณรไปนำน้ำจากสระอโนดาตมาให้พระผู้มีพระภาคล้างเท้าทั้งสองของพระศาสดา เมื่อสุมณสามเณรนำน้ำกลับมาล้างเท้าพระผู้มีพระภาค สุมณสามเณรได้รับทายัชชอุปสมบทเป็นภิกษุจากพระศาสดา เมื่อมีอายุเพียง ๗ ปี
ได้ยินว่า สามเณรผู้มีอายุ ๗ ปี ๒ รูปเท่านั้น ที่ได้อุปสมบท คือ สุมนสามเณรรูปหนึ่ง โสปากสามเณรรูปหนึ่ง
เมื่อเหล่าภิกษุกล่าวถึงความน่าอัศจรรย์ของสุมนสามเณรที่มีอานุภาพมากแม้มีอายุเพียง ๗ ขวบ พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้ว่า
ภิกษุใดแลยังหนุ่ม พากเพียรอยู่ในพระพุทธศาสนา ภิกษุนั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง ดุจพระจันทร์ที่พ้นแล้วจากเมฆ สว่างอยู่ ฉะนั้น
เมื่อจบธรรมเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุโสดปัตติผล
อ่าน สุมนสามเณร
อ่าน คาถาธรรมบท ภิกขุวรรค