บุคคลมีปฏิภาณเพราะปริยัติ ๑
บุคคลมีปฏิภาณเพราะปริปุจฉา ๑
บุคคลมีปฏิภาณเพราะอธิคม ๑
บุคคลมีปฏิภาณเพราะปริยัติเป็นไฉน?
บุคคลบางคนในพระศาสนานี้ เล่าเรียนพระพุทธพจน์ คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ ญาณของบุคคลนั้น ย่อมแจ่มแจ้งเพราะอาศัยปริยัติ บุคคลนี้ชื่อว่า ผู้มีปฏิภาณเพราะปริยัติ
บุคคลมีปฏิภาณเพราะปริปุจฉาเป็นไฉน?
บุคคลบางคนในพระศาสนานี้ เป็นผู้ไต่ถามในประโยชน์ของตนในประโยชน์ที่ควรรู้ ในลักษณะ ในเหตุ ในฐานะและอฐานะ ญาณของบุคคลนั้นย่อมแจ่มแจ้งเพราะอาศัยการไต่ถามนั้น บุคคลนี้ชื่อว่า ผู้มีปฏิภาณเพราะปริปุจฉา
บุคคลมีปฏิภาณเพราะอธิคมเป็นไฉน?
บุคคลบางคนในพระศาสนานี้ เป็นผู้ได้บรรลุธรรมทั้งหลาย คือ สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘ สามัญญผล ๔ ปฏิสัมภิทา ๔ อภิญญา ๖ บุคคลนั้นรู้อรรถ รู้ธรรม รู้นิรุติ เมื่อรู้อรรถ อรรถก็แจ่มแจ้ง เมื่อรู้ธรรม ธรรมก็แจ่มแจ้ง เมื่อรู้นิรุติ นิรุติก็แจ่มแจ้ง ญาณในอรรถ ธรรมและนิรุติทั้ง ๓ นี้ ชื่อว่าปฏิภาณปฏิสัมภิทา
บุคคลผู้ใดเข้าถึง เข้าถึงพร้อม เข้าไป เข้าไปพร้อม เข้าไปถึง เข้าไปถึงพร้อม ประกอบแล้วด้วยปฏิภาณปฏิสัมภิทานี้ บุคคลนั้น เรียกว่า ผู้มีปฏิภาณ
บุคคลใดไม่มีปริยัติ ไม่มีปริปุฉา ไม่มีอธิคม ญาณอะไรเล่าจะแจ่มแจ้ง แก่บุคคลนั้น เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ผู้ละเอียด มีปฏิภาณ
อ้างอิง:
ปุราเภทสุตตนิทเทสที่ ๑๐ พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๙ ข้อที ๔๐๖ หน้า ๒๑๖-๒๑๗