Main navigation
ปัจจัย ๒๔
Share:

ปัจจัย ๒๔

๑. เหตุปัจจัย

เหตุปัจจัย คือ (เหตุ โลภะ โทสะ โมหะ อโลภะ อโทสะ อโมหะ) เป็นปัจจัย (เป็นธรรมอุดหนุน) แก่ธรรมอันสัมปยุตด้วยเหตุและรูป ซึ่งมีธรรมอันสัมปยุตด้วยเหตุนั้นเป็นสมุฏฐานโดยเหตุปัจจัย (โดยอำนาจเหตุปัจจัย)

๒. อารัมมณปัจจัย

อารัมมณปัจจัย คือ

รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยจักขุวิญญาณธาตุนั้นโดยอารัมมณปัจจัย

สัททายตนะ เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยโสตวิญญาณธาตุนั้นโดยอารัมมณปัจจัย

คันธายตนะ เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยฆานวิญญาณธาตุนั้นโดยอารัมมณปัจจัย

รสายตนะ เป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยอารัมมณปัจจัย

โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยกายวิญญาณธาตุนั้นโดยอารัมมณปัจจัย

รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอารัมมณปัจจัย

ธรรมทั้งปวง เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้น โดยอารัมมณปัจจัย

ธรรม คือ จิตและเจตสิกใดๆ ปรารภธรรมใดๆ เกิดขึ้น ธรรมนั้น ๆ เป็นปัจจัยแก่ธรรม (คือ จิต และเจตสิก) นั้น ๆ โดยอารัมมณปัจจัย

๓. อธิปติปัจจัย

อธิปติปัจจัย คือ

ฉันทาธิปติ เป็นปัจจัยแก่ธรรมอันสัมปยุตด้วยฉันทะและรูปซึ่งมีธรรมอันสัมปยุตด้วยฉันทะนั้น เป็นสมุฏฐานโดยอธิปติปัจจัย

วิริยาธิปติ เป็นปัจจัยแก่ธรรมอันสัมปยุตด้วยวิริยะ และรูปซึ่งมีธรรมอันสัมปยุตด้วยวิริยะนั้นเป็นสมุฏฐานโดยอธิปติปัจจัย

จิตตาธิปติ เป็นปัจจัยแก่ธรรมอันสัมปยุตด้วยจิต และรูปซึ่งมีธรรมอันสัมปยุตด้วยจิตนั้นเป็นสมุฏฐานโดยอธิปติปัจจัย

วิมังสาธิปติ เป็นปัจจัยแก่ธรรมอันสัมปยุตด้วยวิมังสา และรูปซึ่งมีธรรมอันสัมปยุตด้วยวิมังสานั้น เป็นสมุฏฐาน โดยอธิปติปัจจัย

ธรรม คือ จิตและเจตสิกใด ๆ กระทำธรรมใด ๆ ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นเกิดขึ้น ธรรมนั้นๆ เป็นปัจจัยแก่ธรรม (คือ จิตและเจตสิก) นั้น ๆ โดยอธิปติปัจจัย

๔. อนันตรปัจจัย

อนันตรปัจจัย คือ

จักขุวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยจักขุวิญญาณธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย

มโนธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย

โสตวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยโสตวิญญาณธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย

มโนธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย

ฆานวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยฆานวิญญาณธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย

มโนธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย

ชิวหาวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยชิวหาวิญญาณธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย

มโนธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย

กายวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยกายวิญญาณธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย

มโนธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย

กุศลธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่กุศลธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย

กุศลธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อัพยากตธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย

อกุศลธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อกุศลธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย

อกุศลธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อัพยากตธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย

อัพยากตธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อัพยากตธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย

อัพยากตธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่กุศลธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย

อัพยากตธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อกุศลธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย

ธรรม คือ จิตและเจตสิกใด ๆ เกิดขึ้นในลำดับแห่งธรรมใด ๆ ธรรมนั้นๆ เป็นปัจจัยแก่ธรรม (คือ จิตและเจตสิก) นั้น ๆ โดยอนันตรปัจจัย

๕. สมนันตรปัจจัย

สมนันตรปัจจัย คือ

จักขุวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยจักขุวิญญาณธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย

มโนธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย

โสตวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยโสตวิญญาณธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย

มโนธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย

ฆานวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยฆานวิญญาณธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย

มโนธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย

ชิวหาวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยชิวหาวิญญาณธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย

มโนธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอสมนันตรปัจจัย

กายวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยกายวิญญาณธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย

มโนธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย

กุศลธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่กุศลธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยสมนันตรปัจจัย

กุศลธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อัพยากตธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยสมนันตรปัจจัย

อกุศลธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อกุศลธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยสมนันตรปัจจัย

อกุศลธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อัพยากตธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยสมนันตรปัจจัย

อัพยากตธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อัพยากตธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยสมนันตรปัจจัย

อัพยากตธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่กุศลธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยสมนันตรปัจจัย

อัพยากตธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อกุศลธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยสมนันตรปัจจัย

ธรรม คือ จิตและเจตสิกใด ๆ เกิดขึ้นในลำดับแห่งธรรมใด ๆ ธรรมนั้นๆ เป็นปัจจัยแก่ธรรม (คือ จิตและเจตสิก) นั้น ๆ โดยสมนันตรปัจจัย

๖. สหชาตปัจจัย

สหชาตปัจจัย คือ

นามธรรม ๔ เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยสหชาตปัจจัย

มหาภูตรูป ๔ เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยสหชาตปัจจัยในปฏิสนธิขณะ

นามรูปเป็นปัจจัยแก่กันและกัน โดยสหชาตปัจจัย

จิตและเจตสิกธรรม เป็นปัจจัยแก่รูป อันมีจิตเป็นสมุฏฐาน โดยสหชาตปัจจัย

มหาภูตรูป เป็นปัจจัยแก่อุปาทารูป โดยสหชาตปัจจัย

รูปธรรม บางคราวเป็นปัจจัยแก่นามธรรม โดยสหชาตปัจจัย บางคราวเป็นปัจจัยโดยมิใช่สหชาตปัจจัย

๗. อัญญมัญญปัจจัย

อัญญมัญญปัจจัย คือ นามขันธ์ ๔ เป็นปัจจัยกันโดยอัญญมัญญปัจจัย

มหาภูตรูป ๔ เป็นปัจจัยกันโดยอัญญมัญญปัจจัยในปฏิสนธิขณะ

นามรูป เป็นปัจจัยกันโดยอัญญมัญญปัจจัย

๘. นิสสยปัจจัย

นิสสยปัจจัย คือ

นามขันธ์ ๔  เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยนิสสยปัจจัย

มหาภูตรูป ๔ เป็นปัจจัยแก่กันและกัน โดยนิสสยปัจจัยในปฏิสนธิขณะ

นามรูป เป็นปัจจัยแก่กันและกัน โดยนิสสยปัจจัย

จิตและเจตสิกธรรม เป็นปัจจัยแก่รูป อันมีจิตเป็นสมุฏฐาน โดยนิสสยปัจจัย

มหาภูตรูป เป็นปัจจัยแก่อุปาทารูป โดยนิสสยปัจจัย

จักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยจักขุวิญญาณธาตุนั้นโดยนิสสยปัจจัย

โสตายตนะ เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยโสตวิญญาณธาตุนั้นโดยนิสสยปัจจัย

ฆานายตนะ เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยฆานวิญญาณธาตุนั้นโดยนิสสยปัจจัย

ชิวหายตนะ เป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยนิสสยปัจจัย

กายายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยกายวิญญาณธาตุนั้นโดยนิสสยปัจจัย

มโนธาตุ และมโนวิญญาณธาตุ อาศัยรูปใด เป็นไป รูปนั้นเป็นปัจจัยแก่มโนธาตุ

มโนวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตตด้วยธาตุคู่นั้นโดยนิสสยปัจจัย

๙. อุปนิสสยปัจจัย

อุปนิสสยปัจจัย คือ กุศลธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่กุศลธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยอุปนิสสยปัจจัย

กุศลธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อกุศลธรรมที่เกิดหลัง ๆ บางอย่างโดยอุปนิสสยปัจจัย

กุศลธรรมที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่อัพยากตธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยอุปนิสสยปัจจัย

อกุศลธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อกุศลธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยอุปปนิสสยปัจจัย

อกุศลธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่กุศลธรรมที่เกิดหลัง ๆ บางอย่าง โดยอุปนิสสยปัจจัย

อกุศลธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อัพยากตธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยอุปนิสสยปัจจัย

อัพยากตธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อัพยากตธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยอุปนิสสยปัจจัย

อัพยากตธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อกุศลธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยอุปปนิสสยปัจจัย

แม้บุคคลก็จัดเป็นปัจจัย โดยเป็นอุปนิสสยปัจจัย แม้เสนาสนะก็จัดเป็นปัจจัย โดยเป็นอุปนิสสยปัจจัย

๑๐. ปุเรชาตปัจจัย

ปุเรชาตปัจจัย คือ

จักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยจักขุวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย

โสตายตนะ เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยโสตวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย

ฆานายตะ เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยฆานวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย

ชิวหายตนะ เป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย

กายายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยกายวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย

รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยจักขุวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย

สัททายตนะ เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยโสตวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย

คันธายตนะ เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยฆานวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย

รสายตนะ เป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย

โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยกายวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย

รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย

มโนธาตุและมโนวิญญาณธาตุ อาศัยรูปใดเป็นไป รูปนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย

บางคราวเป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย

บางคราวเป็นปัจจัยโดยมิใช่ปุเรชาตปัจจัย

๑๑. ปัจฉาชาตปัจจัย

ปัจฉาชาตปัจจัย คือ จิตและเจตสิกธรรมที่เกิดภายหลัง เป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยปัจฉาชาตปัจจัย

๑๒. อาเสวนปัจจัย

อาเสวนปัจจัย คือ กุศลธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่กุศลธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย

อกุศลธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อกุศลธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย

กิริยาอัพยากตธรรมที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่กิริยาอัพยากตธรรมที่เกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย

๑๓. กัมมปัจจัย

กัมมปัจจัย คือ กุศลกรรมและอกุศลกรรม เป็นปัจจัยแก่วิบากขันธ์และกฏัตตารูปโดยกัมมปัจจัย และเป็นปัจจัยแก่ธรรมอันสัมปยุตด้วยเจตนาและรูปซึ่งมีธรรมอันสัมปยุตด้วยเจตนานั้นเป็นสมุฏฐานโดยกัมมปัจจัย

๑๔. วิปากปัจจัย

วิปากปัจจัย คือ นามขันธ์ ๔ อันเป็นวิบาก เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยวิปากปัจจัย

๑๕. อาหารปัจจัย

อาหารปัจจัย คือ กวฬิงการาหาร เป็นปัจจัยแก่กายนี้โดยอาหารปัจจัย

อาหารที่เป็นนาม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่สัมปยุตและรูปอันมีธรรมที่สัมปยุตนั้นเป็นสมุฏฐานโดยอาหารปัจจัย

๑๖. อินทริยปัจจัย

อินทริยปัจจัย คือ

จักขุนทรีย์ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยจักขุวิญญาณธาตุนั้นโดยอินทริยปัจจัย

โสตินทรีย์ เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยโสตวิญญาณธาตุนั้นโดยอินทริยปัจจัย

ฆานินทรีย์ เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยฆานวิญญาณธาตุนั้นโดยอินทริยปัจจัย

ชิวหินทรีย์ เป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยอินทริยปัจจัย

กายินทรีย์ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยกายวิญญาณธาตุนั้นโดยอินทริยปัจจัย

รูปชีวิตินทรีย์ เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอินทริยปัจจัย

อินทรีย์ที่เป็นนาม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่สัมปยุตและรูปอันมีธรรมที่สัมปยุตนั้นเป็นสมุฏฐานโดยอินทริยปัจจัย

๑๗. ฌานปัจจัย

ฌานปัจจัย คือ องค์แห่งฌานทั้งหลาย เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่สัมปยุตด้วยฌานและรูปอันมีธรรมที่สัมปยุตด้วยฌานนั้นเป็นสมุฏฐานโดยฌานปัจจัย

๑๘. มัคคปัจจัย

มัคคปัจจัย คือ องค์แห่งมรรคทั้งหลาย เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่สัมปยุตด้วยมรรคและรูปอันมีธรรมที่สัมปยุตด้วยมรรคนั้นเป็นสมุฏฐานโดยมัคคปัจจัย

๑๙. สัมปยุตตปัจจัย

สัมปยุตตปัจจัย คือ นามขันธ์ ๔ เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยสัมปยุตตปัจจัย

๒๐. วิปปยุตตปัจจัย

วิปปยุตตปัจจัย คือ รูปธรรม เป็นปัจจัยแก่นามธรรมโดยวิปปยุตตปัจจัย

นามธรรมเป็นปัจจัยแก่รูปธรรมโดยวิปปยุตตปัจจัย

๒๑. อัตถิปัจจัย

อัตถิปัจจัย คือ

นามขันธ์ ๔ เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยอัตถิปัจจัย

มหาภูตรูป ๔ เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยอัตถิปัจจัย

ในปฏิสนธิขณะ นามรูปเป็นปัจจัยแก่กันและกัโดยอัตถิปัจจัย

จิตและเจตสิกธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปอันมีจิตเป็นสมุฏฐานโดยอัตถิปัจจัย

มหาภูตรูป เป็นปัจจัยแก่อุปทารูปโดยอัตถิปัจจัย

จักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยจักขุวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย

โสตายตนะ เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยโสตวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย

ฆานายตนะ เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยฆานวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย

ชิวหายตนะ เป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย

กายายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยกายวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย

รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยจักขุวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย

สัททายตนะ เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยโสตวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย

คันธายตนะ เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยฆานวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย

รสายตนะ เป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย

โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยกายวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย

รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย

มโนธาตุ และมโนวิญญาณธาตุ อาศัยรูปใดเป็นไป รูปนั้นเป็นปัจจัยแก่มโนธาตุ มโนวิญญาณธาตุ และธรรมที่สัมปยุตด้วยธาตุคู่นั้นโดยอัตถิปัจจัย

๒๒. นัตถิปัจจัย

นัตถิปัจจัย คือ จิตและเจตสิกธรรมที่ดับไปแล้วโดยไม่มีธรรมอื่นคั่น เป็นปัจจัยแก่จิตและเจตสิกธรรมที่เกิดขึ้นติดต่อกันโดยนัตถิปัจจัย

๒๓. วิคตปัจจัย

วิคตปัจจัย คือ จิตและเจตสิกธรรมที่ไปปราศแล้วโดยไม่มีธรรมอื่นคั่น เป็นปัจจัยแก่จิตและเจตสิกธรรมที่เกิดขึ้นติดต่อกันโดยวิคตปัจจัย

๒๔. อวิคตปัจจัย

อวิคตปัจจัย คือ

นามขันธ์ ๔ เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยอวิคตปัจจัย

มหาภูตรูป ๔ เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยอวิคตปัจจัย

ในปฏิสนธิขณะ นามและรูปเป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยอวิคตปัจจัย

จิตและเจตสิกธรรม เป็นปัจจัยแก่รูป อันมีจิตเป็นสมุฏฐาน โดยอวิคตปัจจัย

มหาภูตรูป เป็นปัจจัยแก่อุปาทารูปโดยอวิคตปัจจัย

จักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยจักขุวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย

โสตายตนะ เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยโสตวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย

ฆานายตนะ เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยฆานวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย

ชิวหายตนะ เป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย

กายายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยกายวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย

รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยจักขุวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย

สัททายตนะ เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยโสตวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย

คันธายตนะ เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยฆานวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย

รสายตนะ เป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย

โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยกายวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย

รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุและธรรมอันสัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย

มโนธาตุ และมโนวิญญาณธาตุอาศัยรูปใดเป็นไป รูปนั้นเป็นปัจจัยแก่มโนธาตุ มโนวิญญาณธาตุ และธรรมอันสัมปยุตด้วยธาตุคู่นั้น โดยอวิคตปัจจัย

 

 

อ้างอิง:
(๑)  ปัจจยวิภังควาร มหาปัฏฐานปกรณ์ พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๔๐ พระอภิธรรมปิฎก ข้อที่ ๗ ข้อที่ ๑-๒๕
 
 

คำต่อไป