อานนทธรรม

53943 รายการ
-
ทำไมนั่งสมาธิได้ดีกว่าเดินจงกรม | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
แต่ละคนจะมีจริตไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงสั่งไว้ว่า “เธอจงประพฤติธรรมให้สมควรแก่ธรรม” ให้เหมาะกับสภาวะของตัวเอง อาการแห่งการบรรลุธรรม พระอานนท์บอกว่ามีได้ ๔ อาการ คือ ๑) ขณะฟังธรรม ๒) ขณะพิจารณาธรรม ๓) ขณะแสดงธรรม ๔) ขณะที่จิตรวมกัน
https://uttayarndham.org/node/5358 -
ทำไมนั่งสมาธิได้ดีกว่าเดินจงกรม | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
แต่ละคนจะมีจริตไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงสั่งไว้ว่า “เธอจงประพฤติธรรมให้สมควรแก่ธรรม” ให้เหมาะกับสภาวะของตัวเอง อาการแห่งการบรรลุธรรม พระอานนท์บอกว่ามีได้ ๔ อาการ คือ ๑) ขณะฟังธรรม ๒) ขณะพิจารณาธรรม ๓) ขณะแสดงธรรม ๔) ขณะที่จิตรวมกัน
https://uttayarndham.org/node/5358 -
ทำไมนั่งสมาธิได้ดีกว่าเดินจงกรม | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
แต่ละคนจะมีจริตไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงสั่งไว้ว่า “เธอจงประพฤติธรรมให้สมควรแก่ธรรม” ให้เหมาะกับสภาวะของตัวเอง อาการแห่งการบรรลุธรรม พระอานนท์บอกว่ามีได้ ๔ อาการ คือ ๑) ขณะฟังธรรม ๒) ขณะพิจารณาธรรม ๓) ขณะแสดงธรรม ๔) ขณะที่จิตรวมกัน
https://uttayarndham.org/node/5358 -
ทำไมนั่งสมาธิได้ดีกว่าเดินจงกรม | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
แต่ละคนจะมีจริตไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงสั่งไว้ว่า “เธอจงประพฤติธรรมให้สมควรแก่ธรรม” ให้เหมาะกับสภาวะของตัวเอง อาการแห่งการบรรลุธรรม พระอานนท์บอกว่ามีได้ ๔ อาการ คือ ๑) ขณะฟังธรรม ๒) ขณะพิจารณาธรรม ๓) ขณะแสดงธรรม ๔) ขณะที่จิตรวมกัน
https://uttayarndham.org/node/5358 -
ทำไมนั่งสมาธิได้ดีกว่าเดินจงกรม | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
แต่ละคนจะมีจริตไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงสั่งไว้ว่า “เธอจงประพฤติธรรมให้สมควรแก่ธรรม” ให้เหมาะกับสภาวะของตัวเอง อาการแห่งการบรรลุธรรม พระอานนท์บอกว่ามีได้ ๔ อาการ คือ ๑) ขณะฟังธรรม ๒) ขณะพิจารณาธรรม ๓) ขณะแสดงธรรม ๔) ขณะที่จิตรวมกัน
https://uttayarndham.org/node/5358 -
ทำไมนั่งสมาธิได้ดีกว่าเดินจงกรม | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
แต่ละคนจะมีจริตไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงสั่งไว้ว่า “เธอจงประพฤติธรรมให้สมควรแก่ธรรม” ให้เหมาะกับสภาวะของตัวเอง อาการแห่งการบรรลุธรรม พระอานนท์บอกว่ามีได้ ๔ อาการ คือ ๑) ขณะฟังธรรม ๒) ขณะพิจารณาธรรม ๓) ขณะแสดงธรรม ๔) ขณะที่จิตรวมกัน
https://uttayarndham.org/node/5358 -
ทำไมนั่งสมาธิได้ดีกว่าเดินจงกรม | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
แต่ละคนจะมีจริตไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงสั่งไว้ว่า “เธอจงประพฤติธรรมให้สมควรแก่ธรรม” ให้เหมาะกับสภาวะของตัวเอง อาการแห่งการบรรลุธรรม พระอานนท์บอกว่ามีได้ ๔ อาการ คือ ๑) ขณะฟังธรรม ๒) ขณะพิจารณาธรรม ๓) ขณะแสดงธรรม ๔) ขณะที่จิตรวมกัน
https://uttayarndham.org/node/5358 -
ทำไมนั่งสมาธิได้ดีกว่าเดินจงกรม | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
แต่ละคนจะมีจริตไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงสั่งไว้ว่า “เธอจงประพฤติธรรมให้สมควรแก่ธรรม” ให้เหมาะกับสภาวะของตัวเอง อาการแห่งการบรรลุธรรม พระอานนท์บอกว่ามีได้ ๔ อาการ คือ ๑) ขณะฟังธรรม ๒) ขณะพิจารณาธรรม ๓) ขณะแสดงธรรม ๔) ขณะที่จิตรวมกัน
https://uttayarndham.org/node/5358 -
ทำไมนั่งสมาธิได้ดีกว่าเดินจงกรม | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
แต่ละคนจะมีจริตไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงสั่งไว้ว่า “เธอจงประพฤติธรรมให้สมควรแก่ธรรม” ให้เหมาะกับสภาวะของตัวเอง อาการแห่งการบรรลุธรรม พระอานนท์บอกว่ามีได้ ๔ อาการ คือ ๑) ขณะฟังธรรม ๒) ขณะพิจารณาธรรม ๓) ขณะแสดงธรรม ๔) ขณะที่จิตรวมกัน
https://uttayarndham.org/node/5358 -
ทำไมนั่งสมาธิได้ดีกว่าเดินจงกรม | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
แต่ละคนจะมีจริตไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงสั่งไว้ว่า “เธอจงประพฤติธรรมให้สมควรแก่ธรรม” ให้เหมาะกับสภาวะของตัวเอง อาการแห่งการบรรลุธรรม พระอานนท์บอกว่ามีได้ ๔ อาการ คือ ๑) ขณะฟังธรรม ๒) ขณะพิจารณาธรรม ๓) ขณะแสดงธรรม ๔) ขณะที่จิตรวมกัน
https://uttayarndham.org/node/5358 -
ทำไมนั่งสมาธิได้ดีกว่าเดินจงกรม | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
แต่ละคนจะมีจริตไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงสั่งไว้ว่า “เธอจงประพฤติธรรมให้สมควรแก่ธรรม” ให้เหมาะกับสภาวะของตัวเอง อาการแห่งการบรรลุธรรม พระอานนท์บอกว่ามีได้ ๔ อาการ คือ ๑) ขณะฟังธรรม ๒) ขณะพิจารณาธรรม ๓) ขณะแสดงธรรม ๔) ขณะที่จิตรวมกัน
https://uttayarndham.org/node/5358 -
ควรทำอย่างไรเมื่อมีธรรมไหลออกมาจากใจ | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
ธรรมะที่จะสอนตัวเราเองจะมีได้หลายขณะ ขณะหนึ่ง คือเมื่อเราเข้าสมาธิไปลึก ๆ แล้ว เราก็เกิดญาณโดยธรรมชาติ ญาณนั้นจะสัมผัสความเป็นจริงตรงจริง ลักษณะของญาณคือจะทั้งรู้ ทั้งเห็น เข้าใจแจ่มแจ้งเบ็ดเสร็จเลย จะไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้น นั้นคือ perfect wisdom
https://uttayarndham.org/node/5356 -
ควรทำอย่างไรเมื่อมีธรรมไหลออกมาจากใจ | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
ธรรมะที่จะสอนตัวเราเองจะมีได้หลายขณะ ขณะหนึ่ง คือเมื่อเราเข้าสมาธิไปลึก ๆ แล้ว เราก็เกิดญาณโดยธรรมชาติ ญาณนั้นจะสัมผัสความเป็นจริงตรงจริง ลักษณะของญาณคือจะทั้งรู้ ทั้งเห็น เข้าใจแจ่มแจ้งเบ็ดเสร็จเลย จะไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้น นั้นคือ perfect wisdom
https://uttayarndham.org/node/5356 -
ควรทำอย่างไรเมื่อมีธรรมไหลออกมาจากใจ | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
ธรรมะที่จะสอนตัวเราเองจะมีได้หลายขณะ ขณะหนึ่ง คือเมื่อเราเข้าสมาธิไปลึก ๆ แล้ว เราก็เกิดญาณโดยธรรมชาติ ญาณนั้นจะสัมผัสความเป็นจริงตรงจริง ลักษณะของญาณคือจะทั้งรู้ ทั้งเห็น เข้าใจแจ่มแจ้งเบ็ดเสร็จเลย จะไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้น นั้นคือ perfect wisdom
https://uttayarndham.org/node/5356 -
ควรทำอย่างไรเมื่อมีธรรมไหลออกมาจากใจ | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
ธรรมะที่จะสอนตัวเราเองจะมีได้หลายขณะ ขณะหนึ่ง คือเมื่อเราเข้าสมาธิไปลึก ๆ แล้ว เราก็เกิดญาณโดยธรรมชาติ ญาณนั้นจะสัมผัสความเป็นจริงตรงจริง ลักษณะของญาณคือจะทั้งรู้ ทั้งเห็น เข้าใจแจ่มแจ้งเบ็ดเสร็จเลย จะไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้น นั้นคือ perfect wisdom
https://uttayarndham.org/node/5356 -
ควรทำอย่างไรเมื่อมีธรรมไหลออกมาจากใจ | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
ธรรมะที่จะสอนตัวเราเองจะมีได้หลายขณะ ขณะหนึ่ง คือเมื่อเราเข้าสมาธิไปลึก ๆ แล้ว เราก็เกิดญาณโดยธรรมชาติ ญาณนั้นจะสัมผัสความเป็นจริงตรงจริง ลักษณะของญาณคือจะทั้งรู้ ทั้งเห็น เข้าใจแจ่มแจ้งเบ็ดเสร็จเลย จะไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้น นั้นคือ perfect wisdom
https://uttayarndham.org/node/5356 -
จิตของคนที่ร่างกายตอบสนองอะไรไม่ได้ ยังรับรู้อยู่หรือไม่ | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
โดยหลักการ จิตจะรู้แค่ไหนขึ้นอยู่กับ 1. การใส่ใจ 2. การทำงานของระบบประสาทและสมอง 3. กรรม หากจิตดีใส่ใจ และประสาทไม่ทำงาน หากกรรมเปิดไม่ปิดกั้น ก็จะรู้แต่ไม่สนองตอบ หากกรรมไม่ดีปิดกั้น ก็จะรู้เลือนๆ
https://uttayarndham.org/node/5355 -
จิตของคนที่ร่างกายตอบสนองอะไรไม่ได้ ยังรับรู้อยู่หรือไม่ | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
โดยหลักการ จิตจะรู้แค่ไหนขึ้นอยู่กับ 1. การใส่ใจ 2. การทำงานของระบบประสาทและสมอง 3. กรรม หากจิตดีใส่ใจ และประสาทไม่ทำงาน หากกรรมเปิดไม่ปิดกั้น ก็จะรู้แต่ไม่สนองตอบ หากกรรมไม่ดีปิดกั้น ก็จะรู้เลือนๆ
https://uttayarndham.org/node/5355 -
จิตของคนที่ร่างกายตอบสนองอะไรไม่ได้ ยังรับรู้อยู่หรือไม่ | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
โดยหลักการ จิตจะรู้แค่ไหนขึ้นอยู่กับ 1. การใส่ใจ 2. การทำงานของระบบประสาทและสมอง 3. กรรม หากจิตดีใส่ใจ และประสาทไม่ทำงาน หากกรรมเปิดไม่ปิดกั้น ก็จะรู้แต่ไม่สนองตอบ หากกรรมไม่ดีปิดกั้น ก็จะรู้เลือนๆ
https://uttayarndham.org/node/5355 -
จิตของคนที่ร่างกายตอบสนองอะไรไม่ได้ ยังรับรู้อยู่หรือไม่ | Dhamma Sharing (ธรรมกระจ่าง)
โดยหลักการ จิตจะรู้แค่ไหนขึ้นอยู่กับ 1. การใส่ใจ 2. การทำงานของระบบประสาทและสมอง 3. กรรม หากจิตดีใส่ใจ และประสาทไม่ทำงาน หากกรรมเปิดไม่ปิดกั้น ก็จะรู้แต่ไม่สนองตอบ หากกรรมไม่ดีปิดกั้น ก็จะรู้เลือนๆ
https://uttayarndham.org/node/5355
พระอานนท์ทรงเป็นพระอนุชาสหชาติกับพระผู้มีพระภาคสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระมหาสาวกผู้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในพระศาสนาทั้งเป็นพระพุทธอุปัฏฐาก ทั้งรักษาพระธรรม ทั้งดูแลการจัดการสารพัดกิจให้ลุล่วงด้วยดี จนพระพุทธองค์ทรงแต่งตั้งให้เป็นภิกษุผู้เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายห้าด้านคือ
1) เป็นเลิศด้านมีสติรอบคอบ
2) เป็นเลิศด้านมีคติจำได้มาก
3) เป็นเลิศด้านมีความเพียรมาก
4) เป็นเลิศด้านรอบรู้มาก
5) เป็นเลิศด้านอุปัฏฐากพระพุทธเจ้า
ด้วยความเป็นเลิศเหล่านั้น ทำให้พระอานนท์เป็นพระมหาเถระที่ทรงแสดงธรรมได้เหมือนพระพุทธเจ้ามากที่สุด ซึ่งพระพุทธองค์ทรงโปรดให้แสดงธรรมแทนเนืองๆ ในครั้งสังคายนาพระธรรมเมื่อพุทธศักราชที่หนึ่ง พระอานนท์ทรงเป็นผู้สาธยายธรรมทั้งหลายที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแล้วแก่สภาพระอรหันต์ รวบรวมเป็นพระสุตตันตปิฎกส่วนใหญ่และพระวินัยปิฏกบางส่วน ทำให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาพระธรรมอย่างเที่ยงตรงสืบมาจนถึงทุกวันนี้ คุณูปการของพระอานนท์ใหญ่หลวงนักต่อพระพุทธศาสนาและพุทธชนทั้งหลาย
มูลนิธิอุทยานธรรมจึงได้รวบรวมพระธรรมของพระอานนท์ที่ทรงแสดงแก่บุคคลต่างๆ ในโอกาสต่างๆ เพื่อประโยชน์แก่พุทธชนทั้งหลายในการเข้าถึงธรรมอันเที่ยงตรง ดื่มด่ำกับธรรมรสอันงดงาม