Main navigation
อิทธิวิธี ๒
Share:

อิทธิวิธี ๒ อย่างคือ

๑.  ฤทธิ์ที่ประกอบด้วยอาสวะ  ประกอบด้วยอุปธิ ไม่เรียกว่าเป็นของพระอริยะ คือสมณะหรือพราหมณ์บางคนในโลกนี้ได้บรรลุอิทธิวิธีหลายประการ คือ คนเดียวเป็นหลายคนก็ได้ หลายคนเป็นคนเดียวก็ได้  ทำให้ปรากฎก็ได้ ทำให้หายไปก็ได้ ทะลุฝา กำแพง ภูเขาไปได้ไม่ติดขัด เหมือนไปในที่ว่างก็ได้ ผุดขึ้นดำลงแม้ในแผ่นดินเหมือนในน้ำก็ได้ เดินบนน้ำไม่แตกเหมือนเดินบนแผ่นดินก็ได้  เหาะไปในอากาศเหมือนนกก็ไป  ลูบคลำพระจันทร์พระอาทิตย์ซึ่งมีฤทธิ์  มีอานุภาพมากด้วยฝ่ามือก็ได้ ใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้ นี้ฤทธิ์ที่ประกอบด้วยอาสวะ ประกอบด้วยอุปธิ ไม่เรียกว่าเป็นของพระอริยะ  

๒.  ฤทธิ์ที่ปราศจากอาสวะ  ปราศจากอุปธิ เรียกว่าเป็นของพระอริยะ คือ ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ ถ้าหวังอยู่ว่า เราพึงมีสัญญาในสิ่งปฏิกูล ว่าไม่ปฏิกูลอยู่ ก็ย่อมเป็นผู้มีสัญญาในสิ่งปฏิกูลนั้นว่าไม่ปฏิกูลอยู่  ถ้าหวังอยู่ว่า  เราพึงมีสัญญาในสิ่งไม่ปฏิกูลว่าเป็นสิ่งปฏิกูลอยู่ ก็ย่อมเป็นผู้มีสัญญาในสิ่งไม่ปฏิกูลนั้นว่า เป็นสิ่งปฏิกูลอยู่ ถ้าหวังอยู่ว่า  เราพึงมีสัญญาในสิ่งทั้งที่ปฏิกูลและไม่ปฏิกูลว่า ไม่ปฏิกูลอยู่ ก็ย่อมเป็นผู้มีสัญญาในสิ่งทั้งที่ปฏิกูลและไม่ปฏิกูลนั้นว่า ไม่ปฏิกูลอยู่ ถ้าหวังอยู่ว่า เราพึงมีสัญญาในสิ่งทั้งปฏิกูลและไม่ปฏิกูล ว่าเป็นสิ่งปฏิกูลอยู่ ก็ย่อมเป็นผู้มีสัญญาในสิ่งทั้งที่ปฏิกูลและไม่ปฏิกูลนั้น ว่าเป็นสิ่งปฏิกูลอยู่ ถ้าหวังอยู่ว่า เราพึงละวางสิ่งที่เป็นปฏิกูลและไม่เป็นปฏิกูลทั้ง ๒ นั้นเสีย  แล้ววางเฉยมีสติสัมปชัญญะ ก็ย่อมเป็นผู้วางเฉยในสิ่งนั้นที่เป็นปฏิกูลและไม่เป็นปฏิกูลนั้นเสีย มีสติสัมปชัญญะอยู่  นี้ฤทธิ์ที่ปราศจากอาสวะ ปราศจากอุปธิ ที่เรียกว่าเป็นของอริยะ 


อ้างอิง:
สัมปสาทนียสูตร พระไตรปิฎกฉบับหลวง เล่ม ๑๑ ข้อที่ ๙๐ หน้า ๘๗-๘๙

คำต่อไป