ระบบธรรม

(๑) อัตตานุทิฐิ ความเห็นว่าเป็นอัตตา

(๒) ภิกษุพึงเจริญอนัตตสัญญา เพื่อละอัตตานุทิฐิ

(๓) บุคคลรู้อยู่อย่างไร เห็นอยู่อย่างไร จึงจะละอัตตานุทิฐิได้

บุคคลรู้ เห็นจักษุ โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้
รู้ เห็นรูปโดยความเป็น อนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้
รู้ เห็นจักษุวิญญาณ โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้
รู้ เห็นจักษุสัมผัส โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้
รู้ เห็นแม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้

บุคคลรู้ เห็นหู โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 
รู้ เห็นเสียงโดยความเป็น อนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 
รู้ เห็นโสตวิญญาณ โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 
รู้ เห็นโสตสัมผัส โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 
รู้ เห็นแม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะโสตสัมผัส เป็นปัจจัย โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 

รู้ เห็น จมูก โดยความเป็น อนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 
รู้เห็นกลิ่น โดยความเป็น อนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 
รู้ เห็นฆานวิญญาณ โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 
รู้ เห็นฆานสัมผัส โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 
รู้ เห็นแม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะฆานสัมผัสเป็นปัจจัย โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 

รู้ เห็นลิ้น โดยความเป็น อนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 
รู้ เห็นรส โดยความเป็น อนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 
รู้ เห็นชิวหาวิญญาณ โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 
รู้ เห็นชิวหาสัมผัส โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 
รู้ เห็นแม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะชิวหาสัมผัสเป็นปัจจัย โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 

รู้ เห็นกายโดยความเป็น อนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 
รู้ เห็นสัมผัส โดยความเป็น อนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 
รู้ เห็นกายวิญญาณ โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 
รู้ เห็นกายสัมผัส โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 
รู้ เห็นแม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะกายสัมผัสเป็นปัจจัย โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้ 

รู้ เห็นใจโดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิ ได้
รู้ เห็นธรรมารมณ์โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้
รู้ เห็นมโนวิญญาณโดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้
รู้ เห็นมโนสัมผัสโดยความ เป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฐิได้
รู้ เห็นแม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรือ อทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย โดยความเป็นอนัตตา จึง จะละอัตตานุทิฐิได้

เมื่อบุคคลรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ จึงจะละอัตตานุทิฐิได้





อ้างอิง : 
(๑) 
(๒) อัสสาทสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ ข้อที่ ๓๘๓ หน้า ๔๐๑
(๓) อัตตานุทิฏฐิสูตร  พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๘ ข้อที่ ๒๕๖ หน้า ๑๕๓